ศาลเจ้าเล่งบ้วยเอี๊ยะ

         หลายท่านคงเคยได้ยินชื่อศาลเจ้าเล่งบ๊วยเอี๊ยะแห่งนี้มานาน สร้างโดยชาวจีนแต้จิ๋วสร้างตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลาง ภายในวัดก่อสร้างด้วยศิลปะจีนแบบแต้จิ๋ว เสาเป็นรูปทรงเม็ดข้าวแบบปล่องตรงกลางนิดๆพันรอบด้วยมังกรตัวยาว นอกจากนั้นยังตกแต่งสถานที่ด้วยวัตถุโบราณล้ำค่าหาดูได้ยาก มีระฆังโบราณสำคัญใบหนึ่ง สร้างตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิง ของสำคัญอีกสิ่งหนึ่งคือ กระถางธูปที่ได้รับพระราชทานจากรัชกาลที่5  ศาลเจ้าเล่งบ๊วยเอี๊ยะ แห่งนี้ปัจจุบันมีผู้คนเดินทางมาขอพรมากมาย โดยเฉพาะขอพรจาก เทพเจ้าเล่งบ๊วยเอี๊ยะ ฮูหยิน และทหารเอก หอเฮียฮ้วง ซึ่งเป็นปรมาจารย์เรื่องตี้ลี่ฮวงจุ้ย และการทำนายทายทักเหมาะสำหรับนักเดินทางและผู้ที่ต้องการที่พักอาศัย ทางฝั่งขวามือของศาลคือ เทพ กิวเทียนเนี่ยเนี้ย ซึ่งเป็นธิดาของเง็กเซียนฮ่องเต้ ท่านเก่งด้านตำราพิชัยสงครามและการออกรบใกล้กันมีเทพอุ้มเด็ก เรียกว่า ฮวยกง ฮวยม่า เชื่อว่าพาลูกหลานมากราบไหว้จะทำให้เด็กเลี้ยงง่าย  ไฮไลท์การไหว้ศาลนี้อยู่ที่ผ้าแดงเรียกว่า ฮู้ หรือ คุยกี ซึ่งมักจะเขียนชื่อตนเองแล้วนำไปผูกขอพรไว้กับขาโต๊ะที่วางกระถางธูปเชื่อว่าเป็นโต๊ะมังกรที่สามารถสื่อสารไปถึงเทพเจ้าได้ส่วนใหญ่จะขอพรให้เทพเจ้าช่วยเปิดทางให้การค้าขายเจริญรุ่งเรือง ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นศาลเจ้าสำคัญที่พระบรมวงศ์ศานุวงศ์หลายองค์เคยเสด็จตลอดจนอดีตนายกรัฐมนตรีหลายท่านต่างก็เคยมากราบไหว้สักการะ ว่าแล้วเราเดินทางไปไหว้องค์เทพเจ้าต่างๆกันเลยค่ะ

        อาคารศาลเจ้าเล่งบ๊วยเอี๊ยะ ก่อสร้างด้วยศิลปะจีนแบบแต้จิ๋ว ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลาง จัดเป็นศาลเจ้าขนาดกลางที่มีความงดงามมากที่เดียว

ด้านหน้าจะมีเสาอยู่สองต้นเป็นเสาสีแดงพันรอบด้วยมังกรทองด้านบนสุดของเสาเป็นรูปดอกบัว

การไหว้เจ้าจะเริ่มไหว้จุดนี้เป็นจุดที่1 ซึ่งเป็นศาลทีกง(ฟ้าดิน)ตั้งอยู่ด้านข้างของอาคารศาลเจ้า

        ไฮไลท์การไหว้ศาลนี้อยู่ที่ผ้าแดงเรียกว่า ฮู้ หรือ คุยกี ซึ่งมักจะเขียนชื่อตนเองแล้วนำไปผูกขอพรไว้กับขาโต๊ะที่วางกระถางธูปเชื่อว่าเป็นโต๊ะมังกรที่สามารถสื่อสารไปถึงเทพเจ้าได้

กระถางธูปที่ได้รับพระราชทานจากรัชกาลที่5 นับเป็นวัตถุมงคลที่หาชมได้ยาก

        ขอพรจาก เทพเจ้าเล่งบ๊วยเอี๊ยะ ฮูหยิน และทหารเอก หอเฮียฮ้วง ซึ่งเป็นปรมาจารย์เรื่องตี้ลี่ฮวงจุ้ย

ประวัติเทพเจ้าเล่งบ๊วยเอี้ยะ

        “ เล่งบ๊วยเอี้ยะ หรือ เซียนเหอเยี่ยหยุน ” เดิมชื่อ “เคยหยี่” มีชีวิตอยู่ในช่วงปลายราชวงศ์หยวน ซึ่งขณะนั้นกำลังมีสงครามแย่งชิงอำนาจระหว่าง “จูเหวียนจาง” และ ”เฉินโหย่ว” ในสงครามที่สระน้ำโปหยาง เฉินโหย่ว ถูกยิงด้วยธนูตายจูเหวียนจางจึงตั้งตนเป็นจักรพรรดิสถาปนาราชวงศ์ใหม่ว่า “ราชวงศ์เม้ง” ดังนั้นเคยหยี่จึงเปลี่ยนชื่อเป็น “เหอเยี่ยหยุน” และได้ออกเดินทางไปยังเมืองฮกเกี้ยน มณฑลกวางตุ้ง โดยได้ศึกษาค้นคว้าการดูฮวงจุ้ยและการดูฤกษ์ยาม
เหอเยี่ยหยุนได้ปฏิบัติธรรมเพื่อให้จิตใจสงบ ปล่อยปละผมเผ้า และแต่งกายสกปรกเยี่ยงขอทาน แต่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือมาก เรียกขานนามว่า “เทพเจ้าเสือหมู่” (เทพเจ้าเหา) และไปอยู่ที่ศาลเจ้าลืออุ้ยที่เมืองฮกเกี้ยน ศึกษาฌาณสมาธิ เมื่ออายุ 50 ปี ได้เดินทางไปยังทิศเหนือยัง “เขาไห่หาน” เพื่อเผยแพร่หลักธรรมและวิถีแห่งเต๋าของเหล่าจือ ก่อนที่ท่านจะสิ้นชีวิตได้ สั่งให้นำศพไปฝังไว้ที่อำเภอฉีซาน ณ บริเวณที่ฝังศพนั้นได้ตั้งเป็นศาลเจ้าให้คนกราบไหว้บูชา และตั้งชื่อว่าศาลเจ้าเล่งบ๊วยเอี้ยะ และมีกระดาษยันต์ของเล่งบ๊วยเอี้ยะ เพื่อใช้สำหรับป้องกันภูตผีเป็นที่เลื่องชื่อ ศาลเจ้าโบราณที่ฉีซานจึงเป็นที่เคารพนับถือมาจนถึงปัจจุบัน

ฮวยกง ฮวยม่า เชื่อว่าพาลูกหลานมากราบไหว้จะทำให้เด็กเลี้ยงง่าย

        เทพเจ้ากวนอูปางหนังอ่านหนังสือ (กวนกงเยี่ยตู๋) เทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์ ใข้สติปัญญา ด้านข้างคือเทพเจ้าเงินตราใฉ่เซ่งเอี้ย

ป้ายไม้อักษรจีนโบราณ เขียนขึ้นสมัยฮ่องเต้ราชวงศ์หมิง

ระฆังโบราณสำคัญใบหนึ่ง สร้างตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิงเช่นกัน

หลังจากไหว้เจ้าแล้วต้องลองเดินชมงานปูนปั้นบนฝาผนัง เป็นศิลปะจีนที่งดงามมากทีเดียว

        เสาเป็นรูปทรงเม็ดข้าวแบบปล่องตรงกลางนิดๆพันรอบด้วยมังกรตัวยาว เป็นเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของศาลเจ้าจีน

        ด้านหน้ามีป้ายที่การท่องเที่ยวสร้างไว้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับศาลเจ้าแบบย่อทั้งภาษาไทยและอังกฤษให้นักท่องเที่ยวได้เข้าใจกัน

ประตูทางเข้าออกศาลเจ้าเล่งบ๊วยเอี๊ยะ(มุมที่เห็น คือถ่ายจากด้านในศาลเจ้า)

        ซอยเล่งบ๊วยเอี๊ยะ หน้าทางเข้าศาลเจ้าเล่งบ๊วยเอี๊ยะ "ชุมชนเล่งบ้วยเอี๊ยะ" ตั้งอยู่ที่ซอยเยาวราช 6 (ตรอกอิศรานุภาพ) เดิมเป็นตลาดค้าผักขนาดใหญ่ ต่อมาตลาดขายผักได้ย้ายไปอยู่ที่ปากคลองตลาด ตลอดสองข้างของซอยเป็นร้านค้าอาหารจีนทุกชนิด มีอาหารคาว หวาน ของสด ของแห้งของดอง เครื่องเทศ ส่วนผสมและอุปกรณ์การประกอบอาหารจีนทุกชนิด ท้งในประเทศและนอกประเทศ

        ชุมชนเล่งบ้วยเอี๊ยะ เป็นที่ตั้งบ้านเดิมของเจ้าสัวเนียม ผู้ก่อตั้งและเป็นเจ้าของตลาดเก่า ปัจจุบันคือร้านพริกไทยง่วนสูน หรือพริกไทย ตรามือที่ 1 ในช่วงทุกเทศกาลของชาวจีน จะมีผู้เข้ามาจับจ่ายซื้อของที่ตลาดในชุมชน เล่งบ้วยเอี๊ยะ เป็นจำนวนมากรวมถึงนักท่องเที่ยว เชื้อสายต่าง ๆ โดยเฉพาะเชื้อสายจีนจากฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน

        ชุมชนเล่งบ้วยเอี๊ยะ นอกจากจะเป็นแหล่งรวมอาหารหลากหลายชนิดล้วยังมีการสืบทอด รักษาและอนุรักษ์วัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวจีนเชื้อสายแต้จิ๋ว โดยมีสถานที่สำคัญที่เป็นศูนย์รวมทางจิตใจของชุมชน คือศาลเจ้าเล่งบ้วยเอี๊ยะ

        แผนที่ "ศาลเจ้า เล่งบ๊วยเอี๊ยะ" ถ้ามาจาก ถ.เยาวราช จะอยู่ ซอย 6 , หากมาทาง ถ.เจริญกรุง จะอยู่ซอย 16 มาสักการะ กราบไหว้กันเยอะๆนะคะ แฟนเพจ ไชน่าทาวน์ เยาวราช ^^ โชคดีทุกท่านสวัสดี

๐ วัดบำเพ็ญจีนพรต (ย่งฮกยี่) พระศรีอาริยเมตไตรยโพธิสัตว์ ท่านคือพระโพธิสัตว์ ได้รับความเคารพนับถือมากในพุทธศาสนานิกาย

๐ ศาลเจ้ากวนอู การไหว้จะมีเลขบอกทุกจุด ให้ท่านไหว้ตามตัวเลขจุดต่างๆ จุดที่3 เป็นศาลของเจ้าพ่อม้า

๐ วัดสัมพันธวงศาราม วรวิหาร วัดสัมพันธวงศ์ หรือ วัดเกาะ นั้นเอง อยู่ย่านเยาวราช เป็นวัดที่สวยงามและร่มรื่นมาก

เชี่ยงปู่(จือ) เกาลัด ย่านเยาวราช

ร้านเฉินติ่มซำ

เชี่ยงปู่ เกาลัดคั่ว  เกาลัดคัดพิเศษเกรด A  เป็นเจ้าแรกที่นำเกาลัคเข้ามาในประเทศไทย

ขนมจีบกุ้ง กุ้งเต็มๆคำ อร่อยสดๆ คิดแล้วน้ำลายไหล  ทีเด็ดของร้านนี้ คือ ใช้เนื้อกุ้งเน้น ๆ เป็นตัว ๆ 

ร้านเห่งหยิ่งแต๊ น้ำอัลมอนด์จีน

ที่จอดรถเยาวราช สมาคมฮากกา 

ที่ร้านนี้มีน้ำสมุนไพรให้เลือกมากมายเลยทีเดียว ราคาก็มีตั้งแต่ 20 บาทไปจนถึง 30 บาท

ตั้งอยู่ด้านซ้ายมือของถนนเยาวราช เลี้ยวซ้ายเข้าซอยเยาวพานิชย์ ค่าจอดรถชั่วโมงละ 40 บาท